วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บัวลอย ของหวานประจำชาติไทย

บัวลอย


ตำนานขนมของภรรยาที่รักสามี ด้วยชีวิต

จากเมื่ออดีตกาลนานมาแล้วมีสตรีตั้งท้องคนหนึ่งชื่อ “บัว”ต้องการที่จะช่วยแบ่งเบาภาระผัวโดยการทำขนมขาย แม้ผัวจะห้ามปามอย่างไรก็ไม่ฟัง เมื่อผัวไปทำงานก็จะทำขนมใส่เรือแล้วพาย ไปขายในคลอง ชาวบ้านที่จะซื้อก็จะตะโกน“บัวจ้า..บัวลอยมาทางนี้หน่อย" และด้วยขนมทำจากกระทิ เมื่อทำเสร็จแล้วก็เอาลงเรือขายเลยประกอบกับฝีมือการทำขนม ที่มีความอร่อยจนติดอกติดใจชาวบ้าน จนใครๆก็เรียกเธอว่า “บัวลอย”
วันหนึ่งเมื่อผัวกลับจากทำงานไม่เห็นเมียสุดที่รัก จึงพายเรือตามหานางบัวพร้อม กับร้องตะโกนว่า “บัวลอย บัวลอย” แต่ก็ไม่พบแม้แต่เรือของเธอ หลังจากนั้นไม่นานก็มีคน พบศพเธอลอยไปติดอยู่ที่ท่าเรือของวัดในคลองจึงมีการนำขึ้นมาทำพิธีตามศาสนาและด้วย ความเชื่อของคน ไทยที่ว่า ถ้าตายท้องกลมผีจะเฮี้ยนจึงไม่ได้มีการเผาแต่แค่ฝั่งเอาไว้ และ มีบางคนมาขอหวยปรากฎว่าถูกจนโด่งดังไปทั่วผู้คนถูกหวยเป็นว่าเล่น
แต่แล้วเช้าวันหนี่งศพของนางบัวก็หายไป คาดว่าเจ้ามือหวยคงมาทำการขุดศพเอาไปทิ้งและสะกดวิญญาณไว้ หลังจากนั้นตำนานบัวลอย ก็เริ่มถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่นี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาของคลองบางกอกน้อย และได้มีการนำมาทำ เป็นเพลง ดังเพลง บางกอกน้อยที่ ครู ศรเพชร ศรสุพรรณ ได้นำมาขับร้อง
 
 
 
 

สูตรการทำ บัวลอยเบญจรงค์มะพร้าวอ่อน-ไข่นกกระทาหวาน

 

ส่วนผสม

    
   ตัวแป้ง
แป้งข้าวเหนียว 9 ส่วน : แป้งมัน 1 ส่วน
  1. หัวกะทิสด
  2. น้ำตาลมะพร้าว
  3. น้ำตาลทราย
  4. ไข่นกกระทา
  5. มะพร้าวอ่อน
  6. เกลือป่น
  7. ใบเตย แครอท ฟักทอง น้ำหวานสีแดง

วิธีทำ

 
     วิธีทำตัวแป้ง
แป้งสีส้ม ด้จากแครอท
1.หั่นแครอทเป็นลูกเต๋าเล็ก ต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม นำออกมาพักให้สะเด็ดน้ำ
2.ยีหรือบี้แครอทในกระชอนถี่ ให้เนื้อทะลุออกมา ตักเอาเฉพาะเนื้อแครอทที่ทุลุออกมาจากกระชอน
3.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)
4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดพอติดเป็นก้อนนิด ๆ แล้วนำเนื้อแครอทมาผสม กะให้ผสมแล้วแป้งเหนียวพอดี นวดจนแป้งเหนียว พักไว้
 
แป้งสีเหลือง ได้จากฟักทอง
1.ปอกเปลือกฟักทอง หั่นฟักทองเป็นลูกเต๋าเล็ก ต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม นำออกมาพักให้สะเด็ดน้ำ
2.ยีหรือบี้ฟักทองในกระชอนถี่ ให้เนื้อทะลุออกมา ตักเอาเฉพาะเนื้อฟักทองที่ทุลุออกมาจากกระชอน
3.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)
4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดพอติดเป็นก้อนนิด ๆ แล้วนำเนื้อฟักทองมาผสม กะให้ผสมแล้วแป้งเหนียวพอดี นวดจนแป้งเหนียว พักไว้
 
แป้งสีเขียว ได้จากใบเตย
1.หันใบเตย 4-5 ใบพอหยาบ ๆ นำไปตำให้ละเอียด เติมน้ำ 1-2 ชต.บีบและคั้นเอาแต่น้ำ
2.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)
4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง และน้ำใบเตย 1.5 ชต. นวดจนแป้งเหนียว พักไว้
 
แป้งสีแดง ได้จากน้ำหวานสีแดง
1.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)
2.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง และน้ำหวานสีแดง 1 ชต. นวดจนแป้งเหนียว พักไว้
 
แป้งสีขาว
1.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)
2.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดจนแป้งเหนียว พักไว้

        วิธีต้มเม็ดบัวลอย
1.นำแป้งแต่ละสี มาปั้นขนาดเท่าลูกมะเขือพวง หรือขนาดตามชอบ โดยโรยแป้งมันไว้ที่ภาชนะที่รอง ละมือเพื่อกันแป้งติดมือ
2.ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด
3.ใส่แป้งที่ปั่นแล้วลงไป ในขณะน้ำเดือดแรง รอเวลา 2-3 นาที ให้เม็ดบัวลอบ ลอยขึ้นมาที่ผิว
4.เมื่อลอยแล้ว รอีก 30 วินาที แล้วตักเม็ดบัวลอย ลงแช่ในน้ำเย็น และตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ พักไว้
 
      วิธีทำไข่หวาน
1.ตั้งนำใส่น้ำตาลทราย น้ำ 0.5 ลิตร น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
2.รอให้น้ำตาลละลายและเดือด
3.ตอดไข่นกกระทาใส่ลงไป ระวังอย่าให้แตก
4.รอ 3-4 นาที ให้ไข่สุก ตักไข่แยกจากน้ำให้ถ้วย (การต้มไข่หวานแยก เพื่อป้องกันกลิ่นคาวหากต้มไปพร้อมกับบัวลอย)
  
     วิธีต้มน้ำบัวลอย
1.ผ่ามะพร้าว เอาน้ำไว้ และขูดเนื้อมะพร้าวแยกไว้
2.ตั้งน้ำมะพร้าว 1-2 ลูก ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป คนให้ละลายและเดือด (ระวังอย่าใส่น้ำตาลมาก จะหวานเกิน)
3.นำหัวกะทิใส่ลงไป คนอย่าให้แตกมัน เมื่อเริ่มเดือด ให้นำเนื้อมะพร้าว และเม็ดบัวลอย มาใส่ลงไป
4.คอยคนให้เม็ดบัวลอยแตกตัว และใส่เกลืป่นลงไปเล็กน้อย(0.5ชช.หรือตามชอบ) ชิมรสตามชอบ
5.คอยคนจะเดือด ปิดไฟ
ตักบัวลอยใส่ถ้วยหรือลูกมะพร้าว ตักไข่หวานไว้ด้านบน
 
ตักใส่ถ้วยเสริฟ
 
 
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น